สยามศิวิไลซ์ : seksanpantu.wordpress.com



ภาค 1 ทุกข์ : สภาพปัญหา


๑ ตื่นเถิดชาวไทย

และแล้ววิกฤติที่รุมเร้ารอบด้านเนื่องจากความโลภ : ผู้นำแสวงอำนาจเพื่อสนองความโลภ => แสวงกำไรสูงสุดจากการทำธุรกิจการเมือง => ทำให้คนไทยใฝ่ฝันอยากมั่งอยากมี อยากร่ำอยากรวยด้วยการแสวงกำไรสูงสุด ไม่สนใจวิธีการว่าถูกต้อง เหมาะสม ดีงามหรือไม่ => ทำสำเร็จแล้วก็เหยียบย่ำซ้ำเติม เยาะเย้ยผู้อื่นว่าโง่ ว่าควาย => สังคมไทยจึงกลายเป็นสังคมที่แตกแยก เต็มไปด้วยคนแล้งน้ำใจ ทุจริตคอรัปชั่นกันเต็มบ้านเต็มเมืองเพราะผู้นำฉ้อฉล กลไกรัฐก็ฉ้อฉล => แก้ปัญหาอะไรไม่ได้เพราะนักการเมืองความสามารถต่ำ ความระยำสูง => บ้านเมืองจึงเละเทะ เหลวแหลก เสื่อมต่ำลงทุกวัน => แก้ปัญหาแบบไทยๆด้วยรัฐประหาร <= ทำแท้งกฎหมายปล้นชาติ ฆ่าคน วางเพลิงได้ไม่ผิดกฎหมายหากสามารถนำสืบได้ว่าเป็นมาจากแรงจูงใจทางการเมืองซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางสังคม การเมืองไทย ทำให้สภาทาสและรัฐบาลหุ่นเชิดหมดความชอบธรรม +  สารพัดโครงการที่ถูกกล่าวหาว่ากู้มากิน กู้มาโกง + กองกำลังนิรนามที่ออกมาเข่นฆ่าสังหารประชาชนที่ถูกตราหน้าว่าเป็นศัตรูทางการเมือง

นักกินเมืองสิ้นอำนาจชั่วคราว อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจะแก้ปัญหาที่หยั่งรากฝังลึกมานานนับสิบปีได้หรือไม่ เมื่อรัฐบาลเฉพาะกาลผ่านพ้นไป นักกินเมืองจะกลับมาใหม่หรือสูญพันธุ์ไปจากแผ่นดินไทย ???

iPad 217

๑. การเมืองเสื่อม  : รัฐบาลหุ่นเชิด กู้มาโกง รัฐมนตรีดีแต่ปาก(หมาพาจน) สภาทาส เผด็จการรัฐสภา
๒. กลไกรัฐเสื่อม : ตำรวจ … ได้ดีเพราะพี่ให้ “รัฐตำรวจ : อัศวินผยอง” กลับสู่สังคมไทยเป็นคำรบ ๒ ; ดีเอสไอ … หุ่นยนต์ ; องค์กรอิสระ … อำนาจมีไม่กล้าใช้
๓. เศรษฐกิจเสื่อม “เศรษฐกิจซบเซา” กระตุ้นอย่างไรก็ไม่ฟื้น มีแต่ทรงกับทรุด :

  • ข้าวของแพงสวนทางรายได้ที่ลดลง … แพงทั้งแผ่นดินเพราะกองทุนเก็งกำไรปั่นราคาน้ำมันผลักดันต้นทุนการผลิต ค่าครองชีพให้สูงขึ้นสวนทางรายได้ กำไรของประชาชนคนส่วนใหญ่ที่ลดต่ำลงเนื่องจากประชาชนประหยัด ระมัดระวังค่าใช้จ่าย เพราะหนี้ท่วมหัว ฟองสบู่สินค้าเกษตรแตก ทำให้รายได้ลดลงสวนทางค่าครองชีพ
  • ภาคส่งออกเดี้ยง … เศรษฐกิจของอเมริกา ยุโรป “คู่ค้าสำคัญ” ยังไม่ฟื้น เศรษฐกิจจีนความหวังใหม่ก็ชะลอตัว
  • รัฐบาลหนี้ท่วมหัว … ชาติสุ่มเสี่ยงที่จะล่มจมแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวเพราะนโยบายประชานิยมสุดขั้ว “ลดรายได้ เพิ่มการใช้จ่าย” แล้วซุกหนี้ไว้ใต้พรมเพื่อก่อหนี้เพิ่ม

โลกาภิวัฒน์ที่บิดเบี้ยว

๓. สังคมเสื่อม

  • สังคมแตกแยก สังคมเหลื่อมล้ำ : ไพร่/อำมาตย์ เมือง-กรุง/ชนบท รวย/จน
  • ศีลธรรมเสื่อม อาชญากรรมเต็มบ้านเต็มเมือง ใช้ความรุนแรงเป็นเครื่องมือแก้ไขปัญหา นับหน้าถือตากันที่ยศฐาบรรดาศักดิ์และทรัพย์ศฤงคาร
  • เด็กใจแตก ไร้ชาติ ไร้ศาสนา ไร้วัฒนธรรม
  • การศึกษาล้มเหลว คนไทยไม่ขวนขวายหาความรู้ คิดเองไม่เป็น โปรแกรมก็ error ถูกรัฐ/นักการเมืองจูงจมูกได้ง่ายๆ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

๔. สิ่งแวดล้อมเสื่อม

  • สิ่งแวดล้อมเสื่อมตามธรรมชาติ
  • สิ่งแวดล้อมเสื่อมด้วยน้ำมือมนุษย์

 ภาค 2 สมุทัย : เหตุแห่งปัญหา


ตัณหาปกครองโลก
ตัณหาปกครองโลก

เมื่อโลกก้าวสู่ยุคทุนนิยมสุดขั้ว เศรษฐกิจก็มีแต่ทรงกับทรุดเพราะความโลภ ทุกคนต่างมุ่ง “แสวงกำไรสูงสุด” สุดท้ายความโลภก็กัดกร่อน กลืนกิน ทำลายตนเอง โลกกำลังจะพังเพราะความโลภ

๒ เปิดใจให้กว้างเข้าไว้

image

การเมืองเสื่อมเพราะนักการเมืองไม่ทำหน้าที่ตัวแทนประชาชน

การเมืองในระบอบประชาธิปไตยนั้นถือว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน นักการเมืองคือผู้แทนปวงชน ทำหน้าที่เป็นตัวแทน เป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชนที่เลือกตนเข้าสู่สภา เป็นการเมืองของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน

แต่การเมืองยุคปัจจุบันนั้น นักธุรกิจพากันตบเท้า ดาหน้ากันก้าวเข้าสู่ถนนสายการเมืองเพราะมองการเมืองเป็นช่องทางทำธุรกิจ ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งกล่อง เลือกตั้งแต่ละครั้งควักเศษตังค์ออกจากกระเป๋าครั้งละ ๑๐ – ๒๐ ล้านบาทแบบไม่เสียดาย ชนะแล้วก็ต้องหาทางถอนทุนคืน และต่อด้วยการแสวงกำไรสูงสุดจากการทุจริตคอรัปชั่น กินสินบาทคาดสินบน ลืมบทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบในการเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนไปเสียสิ้น บ้านเมืองจึงตกต่ำ สับสนวุ่นวายเพราะความโลภ มัวเมาลุ่มหลงในอำนาจ ลาภยศของนักการเมือง

กลไกรัฐเสื่อมเพราะข้าราชการทำตนเป็นข้ารับใช้นักธุรกิจการเมือง

ข้าราชการคือข้าของแผ่นดิน ประชาชนเสียภาษีให้กับรัฐ แล้วรัฐก็นำเงินภาษีที่ได้จากประชาชนมาจ่ายเป็นค่าจ้างให้กับข้าราชการ ทำงานเพื่อแผ่นดิน เพื่อพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนตามบทบาทหน้าที่แห่งตนว่าสวมบทอะไร ทหาร ตำรวจ ครู อัยการ ผู้พิพากษา ฯลฯ แต่กลับมีข้าราชการทั้งผู้ใหญ่และผู้น้อยบางส่วนหลงลืม ละเลย บทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบแห่งตน ทำงานรับใช้นายทุน นักการเมือง บ้านเมืองจึงตกต่ำ สับสนวุ่นวายเพราะข้าราชการที่ทำตนเป็นสุนัขรับใช้นายทุน นักการเมือง

เศรษฐกิจเสื่อมเพราะต่างคนต่างมุ่งแสวงกำไรสูงสุด

Hedge Fund ทำให้เงินออมไม่เท่ากับเงินลงทุน เพราะเงินออมถูกนำไปใช้ในการเก็งกำไรราคาสินค้าโภคภัณ์ฑ ปั่นราคาสินทรัพย์ต่างๆให้พุ่งสูง เทคโนโลยีทำให้ต้นทุนต่ำลง แต่กองทุนเก็งกำไรผนวกกับความโลภทำให้ต้นทุนด้านพลังงานพุ่งสูง กำไรที่ผู้ประกอบการต้องการก็พุ่งทะยาน ราคาสินค้าจึงพุ่งสูงเพราะต้นทุนด้านพลังงาน วัตถุดิบ และกำไรที่ต้องการ สินค้ายิ่งแพง ความสามารถที่จะซื้อสินค้าของผู้บริโภคยิ่งลดต่ำลง ความต้องการทะยานอยากครอบงำจึงต้องกู้หนี้ยืมสิน สุดท้ายประชาชนก็จมอยู่ในกองหนี้ กำลังซื้อลดต่ำลงเพราะไม่อาจก่อหนี้เพิ่มเติมได้อีก สินค้าเริ่มล้นตลาด ผู้ผลิตต้องปรับลดกำลังการผลิต ลดชั่วโมงการทำงาน แล้วต่อด้วยการปลดคนออกจากคน เศรษฐกิจยิ่งย่ำแย่เพราะเงินเฟ้อสูง ว่างงานสูง(ประเทศไทยตัวเลขการว่างงานในระบบอยู่ในระดับต่ำ แต่ประสบปัญหาค่าครองชีพพุ่งทะยานแซง/สวนทางรายได้ ทำให้หนี้ท่วมหัว กำลังซื้อหดตัว)

Extreme Money

เมื่อดอลลาร์เสื่อมสิ้นมนต์ขลัง

สังคมเสื่อมเพราะคนไร้ศีลธรรม ลืมรากเหง้าของตนเอง

เยาวชนไทย อนาคตชาติ
เยาวชนไทย อนาคตชาติ

สังคมไทยล้มเหลวในทุกๆด้าน : พ่อแม่ปล่อยปละละเลยลูก ปล่อยให้ลูกโตมากับละครน้ำเน่า … ตบตีกัน วันๆไม่ทำมาหากินอะไรตั้งหน้าตั้งตาแย่งผัวเศรษฐีมีเมียแล้วมาเป็นของตัวเอง ; การศึกษาล้มเหลวในการปลูกฝังทัศนคติให้คนไทยใฝ่หาความรู้ คิดได้ คิดเป็น ; ศาสนาล้มเหลวในการปลูกฝังศีลธรรม ; สังคมล้มเหลวในการหล่อหลอมคนไทยให้เป็นหนึ่งเดียว ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ฯลฯ

สิ่งแวดล้อมเสื่อมเพราะมนุษย์มุ่งเอาชนะธรรมชาติ


ภาค 3 นิโรธ : หนทางเยียวยาแก้ไข


iPad 223

สารพัดม็อบที่เกิดขึ้น สะท้อนภาพปัญหา ได้เวลายกเครื่องประเทศไทยกันอีกครั้งเพื่อนำศีลธรรมกลับคืนมา ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ-สังคม สร้างเสถียรภาพทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ

3 ใช้วิจารณญานกลั่นกรอง

สารพัดม็อบสะท้อนภาพปัญหา ถึงเวลายกเครื่องประเทศไทย
สารพัดม็อบสะท้อนภาพปัญหา ถึงเวลายกเครื่องประเทศไทย

การเมือง

พ.ศ. ๒๔๗๕ คณะราษฎร “ทหารและปัญญาชนหัวนอก” ร่วมมือกันเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย จากนั้น ๒ กลุ่มอำนาจ “กลุ่มอำนาจเก่า-ใหม่” ก็แย่งชิงอำนาจกันโดยที่ประชาชนตาดำๆไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยอันใด

พ.ศ. ๒๕๔๙ หลังการรัฐประหาร ประชาชนคนรากหญ้าถูกปลุกให้ตื่นขึ้นในนาม “คนเสื้อแดงผู้รักประชาธิปไตย” คนต่างจังหวัดลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อให้อดีตนายกฯทักษิณกลับเข้าสู่อำนาจอีกครั้งเพราะนโยบายประชานิยมช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างโอกาส หว่านเม็ดเงินมากมายมหาศาลใส่มือประชาชนคนยากคนจน การต่อสู้ ความขัดแย้งระหว่างคนไทยด้วยกันเองจึงปะทุขึ้น

พ.ศ. ๒๕๕๖ สารพัดม็อบเรียกร้องรัฐบาลแก้ปัญหา นายกรัฐมนตรี ลอยไปลอยมา ผลักภาระให้พ้นตัว รับชอบ ไม่รับผิด ประชานิยมสุดขั้วนำมาซึ่งหายนะ เมื่อทุนสามานย์ย่ามใจลักหลับคนไทยทั้งประเทศ เสียงเรียกร้องปฏิรูป “ยกเครื่อง” ประเทศไทยเริ่มดังขึ้น

ปรองดองต้องนิรโทษยกเข่งทำให้คนไทยเกือบทั้งประเทศเห็นพ้องต้องกัน ประสานเสียง “รับไม่ได้” กับกฎหมายระยำฉบับนี้ คนไทยรับไม่ได้กับกฎหมายย้อนยุค ออก “ป้ายอาญาสิทธิ์” ให้คนที่ปล้นชาติ ฆ่าคนตาย เผาบ้านเผาเมืองจากแรงจูงใจทางการเมือง หรือเป็นนักการเมืองไม่ต้องรับผิด … Someone can do no wrong !!! บ้าไปแล้ว มันหมดยุคหมดสมัยไปแล้ว

โจรปล้นบ้าน กำลังจะฆ่าชิงทรัพย์คนในบ้านของเรา แต่เรากลับบ้านมาประสบเหตุก่อน จึงช่วยเหลือคนในบ้านได้ทันกาล คนในบ้านยังไม่ทันถูกฆ่า ทรัพย์สินยังไม่ทันถูกปล้นชิงเอาไป … เราอาจปล่อยให้โจรเดินลอยหน้าลอยตาออกไปจากบ้านเราโดยไม่แจ้งความ ไม่สืบสาวเอาเรื่อง เอาผิดกับฆาตกรใจโหดนั้นได้ แต่ในทางกฎหมายนั้นความผิดได้เกิดขึ้นแล้ว โจรที่เกือบจะเป็นฆาตกรใจโหดนั้นมีความผิดติดตัวแล้วในข้อหาบุกรุกและพยายามฆ่า พยายามปล้น/ชิง/ลักทรัพย์

๙ ธ.ค. ๕๖ กปปส.ประกาศตนเป็นผู้รับมอบอำนาจจากประชาชน เรียกคืนอำนาจอธิปไตยของประชาชนกลับสู่มือประชาชนเพื่อ “ปฏิวัติประชาชนด้วยเสียงนกหวีด” เพื่อขอนายกฯพระราชทานตามมาตรา ๓ และ ๗ มาปฏิรูปยกเครื่องประเทศไทยใหม่ สุญญากาศทางการเมืองคือปัจจัยชี้ขาดความสำเร็จ/ล้มเหลว

๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ คสช. ประกาศคืนความสุขให้คนไทยทั้งชาติ ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เว้นวรรคประชาธิปไตยสักปีครึ่ง แก้กติกาใหม่ สร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงให้เกิดขึ้น !!!

Social Cycle

เศรษฐกิจ

เศรษฐกิจซบเซาเพราะเกิดภาวะข้าวยากหมากแพง (hyper inflation) การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลงทุนภาครัฐขณะที่แรงงานขาดแคลน ลดรายได้เพิ่มรายจ่าย จึงไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกจุด

วิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติเศรษฐศาสตร์

การลงทุนในยุคเศรษฐกิจซบเซาจากภาวะหนี้สาธารณะท่วมหัว ปริมาณเงินท่วมระบบ

  • การลงทุนในยุคเศรษฐกิจซบเซา ๑
  • การลงทุนในยุคเศรษฐกิจซบเซา ๒

สังคม

4 มองไปข้างหน้า

image

การเมือง

ถ้าการปฏิรูป “ยกเครื่องประเทศไทย” ทำกันแบบเดิมๆ นักวิชาการ คนเมือง คนกรุง มานั่งคิด ปรึกษาหารือ แล้วยัดเยียดการพัฒนา กำหนดทิศทางประเทศไทยว่าจะเดินไปทางไหน หลังการปฏิรูป ประเทศไทยก็จะกลับเข้าสู่วงจรเดิม ไม่ต่างจากประชาธิปไตยแบบยัดเยียดของนักเรียนนอกในยุคคณะราษฏร แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแบบยัดเยียดของสภาพัฒน์ นโยบายบริหารประเทศแบบยัดเยียดที่พรรคการเมืองนำมาใช้มอมเมาประชาชน แล้วปัญหาความเหลื่อมล้ำ ประเทศไทยก็แค่กรุงเทพ คนต่างจังหวัดตั้งรัฐบาลแล้วคนเมือง/คนกรุงล้มรัฐบาลก็จะกลับมาอีก

ถ้าการปฏิรูป “ยกเครื่องประเทศไทย” มองแค่มิติเดียว ตั้งสภาประชาชนขึ้นมาลอยๆ ประกอบด้วยตัวแทนจากกลุ่มวิชาชีพต่างๆ บวกด้วยตัวแทนของคู่ขัดแย้งทางการเมืองฝ่ายต่างๆ มติ แผนงาน หรือผลการศึกษาที่สภาประชาชนคิดขึ้นมาก็จะมีสภาพไม่ต่างจากสารพัดคณะทำงานที่รัฐบาลแล้วรัฐบาลเล่าตั้งขึ้นหลังเหตุการณ์ปี ๕๓ คือ (

๑) ไม่มีใครหยิบยกงานการศึกษามาใช้อย่างเป็นจริงเป็นจัง เพราะสภาประชาชนไร้ซึ่งอำนาจ เนื่องจากไม่มีกฎหมายรองรับ

(๒) ได้มุมมองแค่มิติเดียวคือการประกอบอาชีพ ขาดมิติอื่นๆทางสังคม เช่น ชาติพันธุ์ ศาสนา วัฒนธรรม ชีวิตความเป็นอยู่ของคนพิการ เป็นต้น

(๓) สร้างความผิดหวังให้กับสังคมอย่างรุนแรง นักการเมืองคือสิ่งที่ชั่วร้าย เลวระยำที่สุดในสังคม เมื่อนักการเมืองปฏิรูปประเทศผลของการปฏิรูปก็ไม่ต่างจากเดิมมากนัก ประชาชนเจ็บฟรี ตายฟรี

สังคม

คนกับควาย ไพร่/อำมาตย์ที่ ๒ ฝ่ายนำมาใช้แบ่งแยกคนไทย ฝ่ายหนึ่งนำมาใช้ประนามก่นด่าฝ่ายตรงข้ามเพื่อความสะใจ ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งนำมาใช้ด้วยหวังประโยชน์ทางการเมืองนั้น ท้ายที่สุดแล้วก็จะนำมาซึ่งปัญหาชนชั้น การกดขี่ในอนาคต

เศรษฐกิจ

นโยบายเศรษฐกิจแบบ dual track นั้นสุดท้ายก็จะจมกองหนี้กันทั้งรัฐและประชาชน


ภาค 4 มรรค : มรรคาสู่ความสำเร็จ


iPad 216

ม็อบคนกรุง-คนเมืองนั้นทำได้แค่ล้มรัฐบาล แต่ถ้าคนไทยทั้งชาติต่างเห็นพ้องต้องกัน เรียกร้องในสิ่งเดียวกันคือการยกเครื่องประเทศไทย ปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ในทุกๆมิติ นำศีลธรรมกลับคืนมาสู่สังคม-การเมืองไทย ยกเครื่องการศึกษาใหม่ให้คนไทยรักการค้นคว้าหาความรู้ คิดเองได้ คิดเองเป็น คิดเองถูกต้อง ไม่ใช่รอให้นักการเมืองหรือฝ่ายปกครองมาป้อนโปรแกรมให้ ฝรั่งบอกอะไร สอนอะไรก็รู้จักคิดว่าอันไหนดี อันไหนถูกต้อง สามารถปรับใช้ให้เหมาะสมกับวิถีความเป็นไทยได้ ประเทศไทยก็จะกลับสู่หนทางแห่งความเจริญก้าวหน้าได้อีกครั้งหนึ่ง

คนไทยต้องคิดเองได้ คิดเองเป็น พึ่งพาตนเองได้ และมีศีลธรรมประจำใจ : ล้างพิษประชานิยม หนี้ท่วมหัวทั้งรัฐและประชาชนคืนสู่วิถีแห่งความพอเพียง ; กระจายอำนาจ งบประมาณ รายได้ ความเจริญ สร้างสมดุลย์ระหว่างกรุง-เมือง-ชนบท รวย-กลางๆ-จน นายจ้าง-ผู้บริหาร-ลูกน้อง ฯลฯ

5 หาช่องสอดคล้องทิศทาง

ธรรมาภิบาล “วิธีการที่ถูกต้องดีงามในการบริหารประเทศ” ที่คนเมือง คนกรุงเรียกร้อง กับปัญหาปากท้อง “เป้าหมายของการบริหารกิจการบ้านเมือง” ที่ชาวบ้าน เกษตรกรเดือดร้อนนั้นคือเรื่องเดียวกัน คือกำลังพูดถึง เรียกร้องในสิ่งที่เป็นหน้าที่ ความรับผิดชอบของภาครัฐทั้งสิ้น แค่มีใครสักคนเป็นคนกลางประสานใจคนเมือง คนกรุงกับชาวบ้าน คนชนบทให้กลับมาคืนดีกัน เรียกร้องภาครัฐให้ทำหน้าที่ของตนเองให้ดี กดดันให้ภาครัฐยอมคายอำนาจในมือตนออกมา ตั้งสภา/สมัชชาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ประกอบด้วยตัวแทนของคนไทยทุกภาคส่วน : จังหวัด เมือง ชนบท เกษตรกร แรงงาน วิชาชีพอิสระ กลุ่มชาติพันธุ์ ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ฯลฯ ให้กลุ่มตัวแทนสังคมไทยเหล่านี้รวบรวมประเด็นปัญหาและข้อเสนอต่างๆมายกเครื่องประเทศไทย ให้ประชาชนออกแบบชะตาอนาคตของตนเอง ชาวบ้าน คนต่างอำเภอวาดฝันชีวิตของตนเองอย่างไร คนเมือง คนต่างจังหวัด และคนกรุงอยากเห็นชีวิตของตนเองเป็นแบบไหนอย่างไร ต่างคนต่างคิดแล้วนำมาพูดคุยกัน จากนั้นก็ให้ผู้เชี่ยวชาญนำไปออกแบบกลไกทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจว่าต้องเป็นแบบไหนจึงจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยทุกหมู่เหล่าได้

การเมือง

วิธีแช่แข็งนักการเมืองที่ดีที่สุดก็คือ จับนักการเมืองทุจริตคิดคดทรยศกบฎชาติและราชบัลลังค์เข้าซังเต ให้ไปอยู่ในคุกตารางเท่านั้นเอง ส่วนคนดี คนที่กลับเนื้อกลับตัวก็ให้เขาออกมาทำมาหากินตามปกติ คุกมีไว้ขังเศษเดนสังคมที่ไม่อาจสั่งสอนอบรมเพาะบ่มนิสัยให้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ไม่ใช่ขังมันหมดตะบี้ตะบันยันเตยกเว้นคนชั่วเฉกเช่นที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ นักการเมืองอาสามาทำงานเพื่อบ้านเืมืองระหว่างสู้คดีก็ไ้ด้ประกันตัว ตัดสินว่าผิดยังรอลงอาญา ตาสีตาสาติดคุกตั้งแต่ตอนสู้คดี แบบนี้บ้านเมืองไร้ตัวอย่างที่ดีให้คนเดินตามครับ

การทำงานการเมืองนั้นต้องใช้ทุนมหาศาล คนที่อาสามาทำงานการเมืองก็มีแต่นายทุน ไม่มีประสบการณ์การทำงานเพื่อสังคม การพัฒนาสังคมมาก่อน ทำอย่างไรให้คนดีๆกล้าอาสามาทำงานการเมือง ทำอย่างไรให้การเข้ามาทำงานการเมืองใช้ต้นทุนต่ำ นายกฯนั้นเป็นตำแหน่งบริหารนอกจากจะต้องมีประวัติการทำงานเพื่อสังคมมาก่อนแล้วก็ควรจะต้องมีประสบการณ์ด้านการบริหารงานมาก่อนด้วย

  • คิดแบบซุนวู ๑ ประเมินสถานการณ์ ธรรม ฟ้า ดิน คน ระเบียบวิธี ค้นหาจุดชี้เป็นชี้ตาย ใช้จุดแข็งโจมตีจุดอ่อนด้วยวิธีการที่เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพการณ์ ชัยชนะหยั่งรู้ได้ตั้งแต่ต้น ก่อนลงมือ
  • คิดแบบซุนวู ๒ สงครามย่อมมีค่าใช้จ่าย เมื่อสงครามยืดเยื้อยาวนาน อาวุธที่เคยแหลมคมย่อมทื่อด้าน ขวัญทหารเสื่อมทราม กองทัพที่เคยเข้มแข็งกลับอ่อนเปลี้ย การเงินการคลังของแว่นแคว้นก็ฝืดเคือง ชนเผ่าต่างๆในแว่นแคว้นก็จะลุกฮือ กระด้างกระเดื่อง แข็งข้อ ไม่มีผู้ทรงปัญญาคนใดสามารถรับประกันได้ว่าจะมีเหตุเภทภัยอันใดเกิดขึ้นตามมาหรือไม่
  • คิดแบบซุนวู ๔ การกำหนดยุทธวิธี(๑) วัดปริมาณ (๒) ประเมินเชิงคุณภาพ (๓) คำนวณ (๔) เปรียบเทียบความได้เปรียบ เสียบเปรียบ โอกาส ความเป็นไปได้ (๕) เล็งเห็นวิธีพิชิตกำชัย
  • คิดแบบซุนวู ๖ จุดอ่อน-จุดแข็ง
  • คิดแบบซุนวู ๘ นานายุทธวิธี ขุนพลผิดพลาด ล้มเหลวด้วยเหตุปัจจัย ๕ ประการ คือ (๑) สะเพร่า ประมาทเลินเล่อ (๒) ขลาดเขลา กลัวตาย (๓) ใจร้อน มุทะลุ วู่วาม (๔) สัตย์ซื่อถือธรรม (๕) เมตตาต่อไพร่พล
  • คิดแบบซุนวู ๙ การเดินทัพ ภูมิประเทศที่เป็นทางเดินทัพมี ๔ ลักษณะ คือ (๑) ภูเขาหัวโล้น (๒) แม่น้ำ หนอง/บึง (๓) ที่ลุ่มต่ำซึ่งเต็มไปด้วยป่าหญ้า/โคลนเลน (๔) ที่ดอน
  • คิดแบบซุนวู ๑๐ นานายุทธภูมิ ยุทธภูมิมี ๖ ลักษณะ คือ ยุทธภูมิเปิด(accessible ground) ยุทธภูมิที่ยากเข้าตี(entangling ground) ยุทธภูมิที่ยากแก่การเคลื่อนทัพ(temporizing ground) ชัยภูมิแบบคับแคบ(narrow passes) ยุทธภูมิบนที่ลาดชัน(precipitous heights) และยุทธภูมิที่อยู่ห่างไกล(positions at a great distance from the enemy)
  • เพิ่มเติมเนื้อหาเมื่อ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๗ : คิดแบบซุนวู ๑๑ สถานการณ์ ๙ รูปแบบ …
  • คิดแบบซุนวู ๑๒ พิฆาติด้วยเพลิง(การก่อวินาศกรรม) การโจมตีด้วยเพลิงมี ๕ วิธี คือ (๑) เผาค่ายทหาร (๒) เผาเสบียง (๓) เผากองลำเลียงเสบียง (๔) เผาสรรพาวุธและยุทโธปกรณ์ต่างๆ (๕) เผาทหารในกองทัพศัตรู

เศรษฐกิจ

การยกเครื่องประเทศไทยเกิดจากคนไทยทุกหมู่เหล่าปรึกษาหารือร่วมกัน ประสานประโยชน์กัน มุ่งสร้างการพัฒนาที่มีเสถียรภาพและความยั่งยืน ประเทศไทยก็จะก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง “นักการเมืองยื่นปลา พระราชายื่นเบ็ด” แทนที่เราจะยัดเงินใส่มือชาวบ้าน เราก็ช่วยกันพัฒนา ยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวบ้านให้ดีขึ้น ฐานรากทางเศรษฐกิจก็เติบโตขยายตัวได้อย่างมั่นคง พึ่งพาตนเองได้ มีศีล มีธรรม อยู่ในกรอบกติกา ชนชั้นกลางก็มีรายได้เพิ่มขึ้นเพราะชาวบ้านมีเงินกินเคเอฟซี ใส่ยีนส์ลีวายส์ พาครอบครัวไปเที่ยวทั่วไทย หัวใจของนโยบาย ๒ สูงนั้นอยู่ที่ตรงนี้ ทุกคนมีเงินออม ไม่ใช่แค่เปลือกที่สวยหรูดูดีแต่ใช้การไม่ได้อย่างนโยบาย ๒ สูงที่ว่า “ค่าแรงสูง สินค้าเกษตรราคาสูง” ต้นทุนการผลิต/ค่าครองชีพพุ่งแรงแซงรายได้ที่เพิ่มขึ้นจะมีประโยชน์อะไร “สินค้ายิ่งแพง ความต้องการซื้อ กำลังซื้อยิ่งลดลง” มีแต่เครือ…นั่นแหละที่รวยเพราะผูกขาดธุรกิจการเกษตร ปากท้องไว้ในมือตนเอง

รัฐบาลภายใต้สถานการณ์หนี้ท่วมหัวนั้น ภาครัฐต้องจำกัดบทบาทของตนเอง แทรกแซงระบบเศรษฐกิจให้น้อยที่สุด เท่าที่จำเป็น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เอารัดเอาเปรียบกันของในสังคม ควรปล่อยให้เอกชนเป็นผู้ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจแทนภาครัฐที่มีหนี้ท่วมหัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วมาตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้ง นี่จึงเรียกว่าทุนนิยมเสรีที่ให้ประโยชน์กับคนทุกคนในสังคมอย่างแท้จริง

ก่อนการแทรกแซงเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องให้คำจำกัดความที่ชัดเจนของตนเองให้ได้ก่อนครับว่ารัฐมีหน้าที่อะไร จะทำหน้าที่อะไร เสถียรภาพทางสังคม เศรษฐกิจจะเกิดขึ้นได้ท่านต้องเก็บภาษีคนรวยมาช่วยคนจน ไม่ใช่ลดภาษีคนรวยแล้วควักกระปุกมาแจกคนจน คนทุกกลุ่มในสังคม ล้มละลายกันพอดีครับ บุชทำแบบอย่างที่ไม่ดีไว้ให้เราเห็นแล้วเราจะไปเลียนแบบในสิ่งที่มันไม่ดีมาจากเขาทำไมล่ะครับ ทุกวันนี้กรีนสแปนก็เหม็นโฉ่ยังกะอะไรดี มีแต่คนก่นด่ากลเกมดอกเบี้ยต่ำของแกกันทั้งนั้นว่าทำมาซึ่งวิกฤติ โอบามาแคร์ก็กำลังจะซ้ำเติมปัญหาให้หนักขึ้นเพราะกลเกมทฤษฎีการเงินที่เบอร์นันเกนำมาใช้ ปล่อยแกสนุกกับตัวเลขไปเถอะครับ ความจริงดีหรือร้ายจะรู้ได้ต้องลงมาสัมผัสชีวิตประชาชน เข้าใจธรรมชาติของราคา ของแพงมีแต่คนบ้าเท่านั้นครับที่เขาอยากได้อยากซื้อ ของถูกเลหลัง โล๊ะสต็อค ลดราคาแย่งกันแทบตาย  ขึ้นค่าแรงร้อยละ ๓๐ แต่สินค้าค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายเพิ่มร้อยละ ๕๐ ชีวิตความเป็นอยู่จะดีขึ้นได้อย่างไร เลิกทำงานชุ่ยๆ บ้าตัวเลข สนุกกับการปั่นตัวเลขแบบนักเศรษฐศาสตร์สติเฟื่องที่โดนคนเขาก่นด่ากันมาหมดแล้วทั้งกรีนสแปนและเบอร์นันเก กลับมาอยู่กับโลกของความเป็นจริงดีกว่าครับ แล้วท่านจะแก้ปัญหาได้ถูกทาง คนเขาจะได้ชื่นชมไม่ใ่ช่สาปส่งไล่หลัง ลดดอกเบี้ยแบบกรีนสแปนคือปั่นฟองสบู่จนเศรษฐกิจพัง เพิ่มปริมาณเงินเพื่อลดมูลหนี้ให้ต่ำลงตามค่าเงินที่ด้อยลงแบบเบอร์นันเกชาวบ้านตาดำๆหาเช้ากินค่ำจะอยู่อย่างไร ของแพงกำลังซื้อยิ่งหด คนยิ่งประหยัด ระมัดระวังค่าใช้จ่าย Long Recession เป็นอย่างน้อยครับ อยู่กับความจริง มองให้เห็นแ่ก่นแท้แกนธรรมชาติ แก้ปัญหาด้วยการคิดแบบนักธุรกิจแล้วท่านจะแก้ปัญหาได้ คิดแบบนักเศรษฐศาสตร์ ปั้นตัวเลขให้สวยหรูดูดีมีแต่จะพังครับ

6 ลองทำดูแล้วจะรู้ว่าทำได้

7 ปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมตามสภาพความเป็นจริง

จีนเปลี่ยนระบอบ

บทเรียนจากสังคมจีนสู่สังคมไทย จากซูสีไทเฮาถึงหยวนซื่อไข่(ตั้งตนเป็นเจ้า) ซุนยัดเซ็น(ปฏิวัตินายทุน) เจียงไคเช็คไล่ล่าประหัตประหารสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์เป็นใหญ่ก็เกิดแก็งค์ออฟโฟร์บ้าอำนาจ เข่นฆ่าสังหารฝ่ายตรงข้ามด้วยข้ออ้างเพื่อปฏิวัติวัฒนธรรม การเมือง การปกครอง การเปลี่ยนระบอบเพื่ออะไรกันแน่ ความสงบร่มเย็นเป็นสุขแท้จริงแล้วเกิดจากอะไร “อุดมการณ์” ระบอบการปกครองหรือมหาบุรุษ

  • จีนเปลี่ยนระบอบ ๑ : ซุนยัดเซน “นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่” ในวัยเด็ก
  • จีนเปลี่ยนระบอบ ๒ : ซุนยัดเซน “นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่” บนเส้นทางแห่งการปฏิวัติตอนที่ ๑
  • จีนเปลี่ยนระบอบ ๓ : ซุนยัดเซน “นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่” บนเส้นทางแห่งการปฏิวัติตอนที่ ๒
  • จีนเปลี่ยนระบอบ ๔ : ซุนยัดเซน “นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่” … พรรคกับการปฏิวัติซินไฮ่
  • จีนเปลี่ยนระบอบ ๕ : ซุนยัดเซน “นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่” … หลงเหลี่ยมสุนัขจิ้งจอกเสียงส่วนมากก็เรื่องหนึ่ง ความถูกต้องชอบธรรมก็อีกเรื่องหนึ่ง ดร.ซุนเองก็เคยพลาดท่าเสียทีเพราะฟังและทำตามเสียงส่วนใหญ่มาแล้ว ผลคือนั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตของดร.ซุนยัดเซ็น
  • จีนเปลี่ยนระบอบ ๖ : ซุนยัดเซน “นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่” … ตั้งตนเป็นเจ้า เมื่ออำนาจตกอยู่ในมือสุนัขจิ้งจอกอย่างหยวนซื่อไข่ ประธานาธิบดีมันจิ๊บจ๊อยเกินไป ตั้งตนเป็นเจ้ายิ่งใหญ่กว่า
  • จีนเปลี่ยนระบอบ ๗ : ซุนยัดเซน “นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่” … พรรคคอมมิวนิสต์จีน 
  • จีนเปลี่ยนระบอบ ๘ : ซุนยัดเซน “นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่” … ประชาธิปไตยแผนใหม่ 
  • จีนเปลี่ยนระบอบ ๙ : ซุนยัดเซน “นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่” … ภารกิจที่ยังไม่สิ้นสุด ก่อนเสียชีวิต ดร.ซุนได้รับการสนับสนุนจากพรรคคอมมิวนิสต์ให้เข้าร่วมการเจรจากับเหล่าขุนศึกฝ่ายเหนือ ระหว่างการเดินทางจากกวางตุ้งไปปักกิ่ง ดร.ซุนตั้งเวทีแถลงจุดยืนของตนเองไปตลอดทาง พรรคคอมมิวนิสต์ก็ตั้งเวทีชี้แจงมวลชน ตอกย้ำจุดยืนดังกล่าวไปทั่วแผ่นดิน สุดท้ายฉางคุณบิดพริ้ว หักเหลี่ยม การเจรจาจึงไม่เกิดขึ้น
  •  เพิ่มเติมเนื้อหาเมื่อ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ : จีนเปลี่ยนระบอบ ๑๐ … เจียงไคเช็ค หลังการอสัญกรรมของดร.ซุนยัดเซ็น เจียงไคเช็ค ขุนศึกกระหายเลือด ยึดอำนาจจากฝ่ายซ้ายได้สำเร็จ ไม่เพียงสะบั้นสัมพันธ์กับพรรคคอมมิวนิสต์ ยังไล่ล่าเข่นฆ่าสังหารสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์อีกด้วย

ภาครัฐต้องปรับพฤติกรรม

รัฐบาลไทยทำงบประมาณแบบขาดดุลมาอย่างต่อเนื่องหลายรัฐบาลแล้ว หมายความว่าหนี้สาธารณะของประเทศนั้นเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หนี้เก่าตั้งแต่ต้มยำกุ้งก็ยังใช้กันไม่หมด

สมัยก่อนตอนที่เกิด the Great Depression นั้น รัชกาลที่ ๗ ต้องปลดข้าราชการ ลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐลง รัฐบาลยุคปัจจุบันก็ต้องทำในสิ่งนั้นเช่นกัน ปรับลดภารกิจ ขอบข่ายหน้าที่การทำงานของตนเองลงมา แทนที่จะเพิ่มจำนวนข้าราชการ เพิ่มจังหวัด ก็ต้องยุบรวมจังหวัด คืนแรงงานให้ภาคเอกชนที่กำลังขาดแคลนแรงงาน ฯลฯ

479810_443421732411737_888797128_n ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ศอ.บต.เผยแกนนำบีอาร์เอ็นสายเหยี่ยวจะไม่ยอมเจรจากับฝ่ายใดๆทั้งสิ้น จนกว่าบีอาร์เอ็นจะสามารถช่วงชิงมวลชนมาเป็นพวกได้อย่างแท้จริง และการพูดคุยที่แกนนำบีอาร์เอ็นสายเหยี่ยว ต้องการก็คือการเจรจาผ่านประเทศที่เป็นกลางหรือสหประชาชาติแก้ไขเพิ่มเติมเมื่อ ๑๓ เมษายน ๒๕๕๖ : ดับไฟใต้ต้องเปลี่ยนวิธีคิดในการใช้คนลงไปทำงาน 

ประชาชนต้องปรับพฤติกรรม

ปฏิรูปการศึกษา คำนี้เกิดขึ้นมาเป็นสิบปีแล้ว ในวงการการศึกษาก็ถกเถียงกันมานานระหว่างเรียนการสอนเพื่อผลิตแรงงานป้อนตลาดแรงงานกับการเรียนการสอนเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการ(วิจัย พัฒนาองค์ความรู้) สมดุลย์อยู่ที่ตรงไหน

 8 สงบระงับ เฝ้าระวังด้วยความพอใจIMG_5942“ยิ่งเอามันยิ่งอด ยิ่งสละให้หมด มันยิ่งได้” กูขอให้ลูกหลานโคราชโชคดีปีใหม่หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ


We are, We are SWATCAT


——-

Pray-Cover

บทสวดมนต์ประจำวันพร้อมคำแปล

เหมาะสำหรับผู้ใช้แท็บเล็ตทุกท่าน หนังสือตัวโตๆ อ่านง่าย ไม่ต้องซูม

ดาวโหลดฟรี ที่ http://www.ebooks.in.th/ebook/10796/บทสวดมนต์ประจำวัน/

รำพึงรำพัน(แกลเลอรี่)

พบรัก

รักในจินตนาการ

รอคอยด้วยใจมุ่งหวัง

เฝ้ารอเนิ่นนาน กาลเวลากัดกร่อนกินใจ

สุดท้ายก็ต้องตัดใจ

เป็นโสดไม่ตาย เตรียมใจให้พร้อม

  • แก้ไขเพิ่มเติม ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖ : ถ่านไฟเก่า รักเรา(ร้าว)ไม่อาจลืม ชีวิตของชาวหลักสี่ มีบ้างบางครั้งพบคนรักเก่า อดีตรักไม่อาจลืม ตราตรึงฝังติด จารึกไว้ในความทรงจำ สุข เศร้าคละเคล้ากันไป ความงดงามในห้วงคำนึง
  • บอกตนเอง…ทำใจ “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์” ชาวหลักสี่รักไปก็มีแต่ทุกข์

อยู่อย่างเหงาๆแต่มีความสุข

หลักการ หลักกู


สยามศิวิไลซ์ Pics เล่ม 1

สยามศิวิไลซ์ วางจำหน่ายแล้วที่ http://www.ebooks.in.th/ebook/11177/สยามศิวิไลซ์_Pics_เล่ม_1/ ภาพตัวอย่างจากในบล็อค


แลกเปลี่ยนข่าวสาร ข้อมูล ความคิดเห็นได้ที่

civilizethailand2562@gmail.com


1 thoughts on “สยามศิวิไลซ์ : seksanpantu.wordpress.com

Add yours

ใส่ความเห็น

บลอกที่ WordPress.com .

Up ↑